มือถือสมาร์ทโฟนควรมี RAM เท่าไหร่ ? IOS vs Androids
ปัจจุบัน สมาร์ทโฟนส่วนใหญ่มาพร้อมขนาด RAM ที่หลากหลาย ตั้งแต่ 2GB สำหรับรุ่นประหยัด ไปจนถึง 12GB สำหรับรุ่นเรือธง และแม้แต่บางรุ่นที่มี RAM มากถึง 24GB ก็มีวางจำหน่ายแล้ว! แนวโน้มนี้นำไปสู่คำถามที่น่าสนใจสมาร์ทโฟนควรมี RAM เท่าไรกันแน่?
คำตอบสั้น ๆ คือ อย่างน้อยควรมี 4GB ซึ่งเพียงพอสำหรับการท่องเว็บ เล่นโซเชียลมีเดีย ดูวิดีโอสตรีมมิ่ง และเล่นเกมมือถือยอดนิยมบางเกม แต่แม้จะใช้ได้สำหรับผู้ใช้ทั่วไป ส่วนใหญ่ผู้คนก็เลือกสมาร์ทโฟนที่มี RAM ระหว่าง 6GB ถึง 12GB
ทำไมสมาร์ทโฟนถึงต้องใช้ RAM?
RAM (Random access memory) เป็นฮาร์ดแวร์ทั่วไปของคอมพิวเตอร์ ทั้งคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ แล็ปท็อป และอุปกรณ์พกพาต่าง ๆ ก็ใช้ RAM เป็นหน่วยความจำชั่วคราวเพื่อเก็บข้อมูลที่ต้องเข้าถึงบ่อย ๆ เช่น เมื่อคุณเปิดสมาร์ทโฟน ข้อมูลระบบปฏิบัติการ แอป ข้อมูลต่าง ๆ ก็จะถูกโหลดไว้ใน RAM
นอกจากนี้ RAM ยังเร็วกว่าเครื่องจัดเก็บข้อมูลถาวรอย่างที่ใช้เก็บภาพหรือวิดีโอ แม้ว่าความจุจะน้อยกว่า แต่เพราะ RAM ใช้เก็บข้อมูลของแอปที่เปิดอยู่และข้อมูลสำคัญอื่น ๆ ดังนั้น ยิ่งสมาร์ทโฟนมี RAM มาก ก็ยิ่งทำงานได้ดีขึ้น
แม้ RAM จะมีดีไซน์และสถาปัตยกรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละอุปกรณ์ แต่หน้าที่หลักก็เหมือนกัน
การใช้ RAM iOS vs. Android
นอกจากแอปต่าง ๆ แล้ว ระบบปฏิบัติการของ PC หรือสมาร์ทโฟนก็ใช้ RAM จำนวนไม่น้อยเช่นกัน ปัจจุบันมีระบบปฏิบัติการยอดนิยมสองตัวสำหรับสมาร์ทโฟน คือ iOS สำหรับอุปกรณ์ Apple และ Android สำหรับอุปกรณ์อื่น ๆ แทบทั้งหมด
iOS ใช้ RAM น้อยกว่า Android เนื่องจากชิปและฮาร์ดแวร์ของ Apple ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันโดยเฉพาะ แม้แต่ iPhone 6 ที่ออกในปี 2014 ก็ยังสามารถรัน iOS เวอร์ชันล่าสุดได้ด้วย RAM แค่ 1GB เท่านั้น ขณะที่ iPhone 14 ที่ออกในปี 2022 ก็ยังใช้ RAM แค่ 6GB แสดงให้เห็นถึงระดับการปรับแต่งที่ยอดเยี่ยมของ Apple
ในทางกลับกัน Android ถูกใช้งานโดยหลายแบรนด์ และหลายระบบ ผู้ผลิตสามารถเพิ่ม UI ที่ปรับแต่งเอง แอปติดเครื่อง และ launcher ต่าง ๆ ซึ่งล้วนใช้ RAM มากขึ้น ในบางกรณีผู้ใช้ Android ไม่สามารถลบแอพบางตัวได้ จึงทำให้ RAM ถูกใช้โดยอัตโนมัติ อย่างไรก็ตาม สมาร์ทโฟน Android ส่วนใหญ่ในปัจจุบันก็มักจะมาพร้อม RAM ระหว่าง 4GB ถึง 12GB
สมาร์ทโฟนควรมี RAM เท่าไร?
คำตอบขึ้นอยู่กับลักษณะการใช้งานของแต่ละคน ผู้ใช้บางรายอาจใช้งานแค่เบา ๆ อย่างการท่องเว็บ ส่งข้อความ โทรศัพท์ และดูวิดีโอ ซึ่งไม่ใช้ RAM มาก ในขณะที่บางคนเล่นเกมหรือแก้ไขวิดีโอบนมือถือ ก็ต้องการ RAM มากกว่า
เรามาดูการใช้งานทั่วไปและปริมาณ RAM ที่แต่ละกิจกรรมต้องใช้
- แอปโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Instagram ใช้ RAM ประมาณ 100MB ถึง 500MB แล้วแต่การใช้งาน
- เบราว์เซอร์ เช่น Chrome อาจใช้ RAM มาก ขึ้นอยู่กับจำนวนแท็บที่เปิด และเนื้อหาภายในแต่ละแท็บ โดยทั่วไปอาจใช้ RAM เกิน 500MB หรือมากกว่า 1GB ได้
- แอปดูวิดีโอ เช่น YouTube ใช้ RAM ราว 500MB แล้วแต่วิดีโอที่ดูและจำนวนแท็บเปิด ยิ่งคุณภาพวิดีโอสูง ก็ยิ่งใช้ RAM มากขึ้น
- เกมมือถือใช้ RAM แตกต่างกันมากตามคุณภาพกราฟิก และการเล่นออนไลน์/ออฟไลน์ เช่น Minecraft บน Android อาจใช้ถึง 1GB ในขณะที่ Genshin Impact แนะนำให้มี RAM ขั้นต่ำ 4GB โดยอาจใช้ถึงครึ่งหนึ่งของนั้นระหว่างการเล่น
อย่าลืมว่าระบบปฏิบัติการก็ใช้ RAM ด้วยเช่นกัน ดังนั้น จึงไม่น่าแปลกใจที่ผู้ผลิตบางรายจะเสนอ RAM ขนาด 6GB, 8GB หรือ 12GB แม้กระทั่งสูงสุด 24GB ซึ่งหากคุณใช้ฟีเจอร์อย่าง Samsung DeX ก็ยิ่งต้องการ RAM มากขึ้น
อีกเรื่องหนึ่งคือ บางแอปอาจแนะนำให้มี RAM ขั้นต่ำ แม้ว่าตัวแอปจะไม่ได้ใช้ทั้งหมด นั่นเพราะนักพัฒนาแอปต้องการให้ผู้ใช้มี RAM เผื่อไว้สำหรับแอปอื่น ๆ ที่ทำงานร่วมกัน และระบบปฏิบัติการด้วย เช่น หากแอป Facebook แนะนำให้มี 2GB RAM ก็ไม่ได้หมายความว่าแอปใช้ทั้งหมดนั้น แต่จะช่วยให้ประสบการณ์ใช้งานดียิ่งขึ้น
วิธีตรวจสอบการใช้ RAM บนสมาร์ทโฟน
การจะรู้ว่าคุณต้องใช้ RAM เท่าไร ควรรู้ด้วยว่าตอนนี้เครื่องคุณใช้ RAM เท่าไร
สำหรับผู้ใช้ Android
ไปที่ Settings > Device Care หรือ Device Maintenance (แล้วแต่รุ่น)
แตะที่ Memory จะเห็นว่าเครื่องคุณมี RAM เท่าไร และใช้ไปเท่าไรแล้ว
สำหรับผู้ใช้ iOS
ไปที่ Settings > General
แตะ iPhone Storage จะเห็นการใช้ RAM รวมถึงแอปใดใช้ RAM มากที่สุด
แล้วสรุปว่าสมาร์ทโฟนควรมี RAM เท่าไร?
เมื่อ 10 ปีก่อน สมาร์ทโฟนยังไม่มี RAM ถึง 1GB แต่ปัจจุบันบางรุ่นมี RAM มากถึง 12GB หรือ 16GB และ 24GB แต่โดยสรุปแล้ว ถ้าเครื่องคุณมี RAM 6GB ขึ้นไปก็น่าจะเพียงพอ แต่หากคุณใช้งานด้านเกม หรือทำงานหนัก ๆ ก็อาจมองหาเครื่องที่มี RAM 8GB ขึ้นไป