แชร์

วิธีชาร์จถนอมแบตเตอรี่มือถือไอโฟนและซัมซุง ควรทำยังไงบ้าง?

อัพเดทล่าสุด: 4 เม.ย. 2025
2019 ผู้เข้าชม

แบตเตอรี่เป็นหัวใจสำคัญของสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ Samsung การดูแลรักษาแบตเตอรี่ให้ดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น บทความนี้จะมาแนะนำเคล็ดลับการชาร์จแบตเตอรี่ที่ถูกต้องสำหรับ iPhone และ Samsung เพื่อให้คุณใช้งานมือถือได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ราคาเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งมือถือซัมซุงและไอโฟนไม่ใช่ราคาถูกๆ เลย 

1. ทำความเข้าใจประเภทของแบตเตอรี่

มือถือ iPhone และ Samsung ส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion (Li-ion) ซึ่งมีข้อดีคือ น้ำหนักเบา เก็บประจุได้ดี แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องอายุการใช้งานที่สัมพันธ์กับจำนวนรอบการชาร์จ (Charge Cycle) ยิ่งใช้งานไปเท่าไหร่ก็จะเสื่อมสภาพตามรอบการใช้งาน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของอุปกรณ์แบตเตอรี่ 

2. หลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง

การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนเครื่องดับบ่อยๆ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรชาร์จเมื่อแบตเตอรี่เหลือประมาณ 20-30%

3. ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% เป็นประจำ

การชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% บ่อยครั้ง จะทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนสะสมและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรชาร์จแค่ 80-90% ก็เพียงพอ

4. ชาร์จแบบ "Quick Charge" หรือ "Fast Charge" อย่างระมัดระวัง

เทคโนโลยีชาร์จเร็วมีประโยชน์ในเวลาเร่งด่วน แต่การใช้งานเป็นประจำอาจทำให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไปและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ หากไม่จำเป็น ควรชาร์จด้วยความเร็วปกติ

5. หลีกเลี่ยงการใช้งานมือถือขณะชาร์จ

การใช้งานมือถือขณะชาร์จจะทำให้เครื่องร้อนขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว ควรพักการใช้งานขณะชาร์จ

6. ถอดเคสขณะชาร์จ (ถ้าจำเป็น)

หากเคสหนาเกินไป อาจทำให้ความร้อนสะสมขณะชาร์จมากขึ้น ลองถอดเคสออกขณะชาร์จเพื่อระบายความร้อนได้ดีขึ้น

7. อุณหภูมิที่เหมาะสม

หลีกเลี่ยงการวางมือถือในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ตากแดด หรือในรถที่จอดกลางแดด เพราะความร้อนจะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่

8. อัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด

ผู้ผลิตมักจะปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการพลังงานในซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ๆ การอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำจึงช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น

9. การตั้งค่าเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ (สำหรับ iPhone และ Samsung)

  • เปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode/Power Saving Mode): ลดการทำงานของบางฟีเจอร์เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
  • ลดความสว่างหน้าจอ: หน้าจอที่สว่างจ้าเป็นตัวการกินแบตเตอรี่อันดับต้นๆ
  • ปิดการทำงานของ Location Services: หากไม่จำเป็นต้องใช้ location services ตลอดเวลา ควรปิดไว้
  • ปิด Background App Refresh: ป้องกันไม่ให้แอปทำงานในเบื้องหลังโดยไม่จำเป็น
  • ปิด Bluetooth และ Wi-Fi เมื่อไม่ใช้งาน: การเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลาจะเปลืองแบตเตอรี่โดยใช่เหตุ

10. เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับ iPhone (อ้างอิงจาก Apple Support)

ตรวจสอบ Health Battery ใน Settings > Battery > Battery Health & Charging เพื่อดูประสิทธิภาพของแบตเตอรี่

เปิด Optimized Battery Charging: iPhone จะเรียนรู้พฤติกรรมการชาร์จของคุณและชะลอการชาร์จให้เต็ม 100% เพื่อลดการเสื่อมสภาพ

11. เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับ Samsung (อ้างอิงจาก Samsung Support)

เปิด Adaptive Battery: ระบบจะเรียนรู้รูปแบบการใช้งานของคุณและปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสม

ใช้ฟีเจอร์ Device care: ช่วยตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่

ทำไมควรชาร์จแบตมือถือให้เต็มแค่ 80%?

การชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนให้เต็มเพียง 80% แทนที่จะชาร์จจนถึง 100% เป็นวิธีที่ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่และเพิ่มความปลอดภัย โดยมีเหตุผลสำคัญดังนี้

ยืดอายุแบตเตอรี่

แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งใช้ในสมาร์ทโฟนมีข้อจำกัดด้านความทนทานต่อความร้อนและการชาร์จเต็ม 100% เป็นประจำจะเพิ่มความเครียดให้กับแบตเตอรี่ ส่งผลให้อายุการใช้งานลดลง การชาร์จถึงเพียง 80% จะช่วยลดความเครียดนี้และยืดอายุรอบการชาร์จได้

ลดความร้อน

การชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มหรือปล่อยให้แบตเตอรี่หมดบ่อย ๆ อาจทำให้เกิดความร้อนสะสม ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่หรือแม้กระทั่งการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การระเบิด การหยุดชาร์จที่ 80% ช่วยลดโอกาสที่แบตเตอรี่จะร้อนเกินไป

ประหยัดพลังงาน

เมื่อชาร์จถึง 100% อุปกรณ์จะยังคงใช้พลังงานเพื่อรักษาระดับประจุไฟฟ้า การหยุดชาร์จก่อนถึง 100% สามารถช่วยลดการใช้พลังงานส่วนเกินได้1.

สรุป

การดูแลรักษาแบตเตอรี่มือถือ iPhone และ Samsung ให้ดีไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ทำตามเคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้ คุณก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่และใช้งานมือถือได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไปอีกนาน


บทความที่เกี่ยวข้อง
Bluetooth คืออะไร? รู้จักเทคโนโลยีเชื่อมต่อไร้สายยอดนิยม
Bluetooth คือเทคโนโลยีการเชื่อมต่อไร้สายระยะสั้นที่ใช้คลื่นความถี่ 2.4 GHz เพื่อส่งข้อมูลระหว่างอุปกรณ์ต่างๆ ได้แก่ มือถือสมาร์ทโฟน หูฟัง ลำโพง และอุปกรณ์ IoT โดยไม่ต้องใช้สาย Cable ในการเชื่อมต่อใดๆ ช่วยให้การเชื่อมต่อรวดเร็วและสะดวกสบายมากขึ้น เช่น การเชื่อมต่อไร้สายระหว่างหูฟังและมือถือ เพื่อส่งข้อมูลเสียงต่างๆ
23 เม.ย. 2025
มือถือที่ใช้งาน eSIM การรับสัญญาณ 5G แย่กว่าซิมปกติ จริงไหม?
ในยุคที่เทคโนโลยีมือถือพัฒนาอย่างรวดเร็ว eSIM หรือ embedded SIM กลายเป็นทางเลือกใหม่ที่สะดวกสบายมากขึ้นสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟนหลายคน โดยเฉพาะกับการรองรับเครือข่าย 5G ที่กำลังขยายตัวอย่างรวดเร็วในประเทศไทยและทั่วโลก
23 เม.ย. 2025
vivo X200 Ultra มือถือที่ใกล้เคียง 'กล้อง' มากขึ้นกว่าเดิม
ในยุคที่กล้องบนสมาร์ทโฟนพัฒนาแบบค่อยเป็นค่อยไป Vivo ได้ตัดสินใจเดินเกมใหญ่ ด้วยการเปิดตัว Vivo X200 Ultra มือถือสมาร์ทโฟนเรือธงที่บริษัทนิยามว่าเป็น กล้อง Mirrorless ที่โทรออกได้
22 เม.ย. 2025
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ นโยบายคุกกี้
เปรียบเทียบสินค้า
0/4
ลบทั้งหมด
เปรียบเทียบ
Powered By MakeWebEasy Logo MakeWebEasy