วิธีชาร์จถนอมแบตเตอรี่มือถือไอโฟนและซัมซุง ควรทำยังไงบ้าง?
แบตเตอรี่เป็นหัวใจสำคัญของสมาร์ทโฟน ไม่ว่าจะเป็น iPhone หรือ Samsung การดูแลรักษาแบตเตอรี่ให้ดีจึงเป็นเรื่องที่สำคัญ เพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพให้ใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น บทความนี้จะมาแนะนำเคล็ดลับการชาร์จแบตเตอรี่ที่ถูกต้องสำหรับ iPhone และ Samsung เพื่อให้คุณใช้งานมือถือได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
ราคาเปลี่ยนแบตเตอรี่ทั้งมือถือซัมซุงและไอโฟนไม่ใช่ราคาถูกๆ เลย
1. ทำความเข้าใจประเภทของแบตเตอรี่
มือถือ iPhone และ Samsung ส่วนใหญ่ใช้แบตเตอรี่ Lithium-ion (Li-ion) ซึ่งมีข้อดีคือ น้ำหนักเบา เก็บประจุได้ดี แต่ก็มีข้อจำกัดเรื่องอายุการใช้งานที่สัมพันธ์กับจำนวนรอบการชาร์จ (Charge Cycle) ยิ่งใช้งานไปเท่าไหร่ก็จะเสื่อมสภาพตามรอบการใช้งาน ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของอุปกรณ์แบตเตอรี่
2. หลีกเลี่ยงการปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยง
การปล่อยให้แบตเตอรี่หมดจนเครื่องดับบ่อยๆ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรชาร์จเมื่อแบตเตอรี่เหลือประมาณ 20-30%
3. ไม่ควรชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% เป็นประจำ
การชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% บ่อยครั้ง จะทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนสะสมและเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรชาร์จแค่ 80-90% ก็เพียงพอ
4. ชาร์จแบบ "Quick Charge" หรือ "Fast Charge" อย่างระมัดระวัง
เทคโนโลยีชาร์จเร็วมีประโยชน์ในเวลาเร่งด่วน แต่การใช้งานเป็นประจำอาจทำให้แบตเตอรี่ร้อนเกินไปและเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ หากไม่จำเป็น ควรชาร์จด้วยความเร็วปกติ
5. หลีกเลี่ยงการใช้งานมือถือขณะชาร์จ
การใช้งานมือถือขณะชาร์จจะทำให้เครื่องร้อนขึ้น ซึ่งเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็ว ควรพักการใช้งานขณะชาร์จ
6. ถอดเคสขณะชาร์จ (ถ้าจำเป็น)
หากเคสหนาเกินไป อาจทำให้ความร้อนสะสมขณะชาร์จมากขึ้น ลองถอดเคสออกขณะชาร์จเพื่อระบายความร้อนได้ดีขึ้น
7. อุณหภูมิที่เหมาะสม
หลีกเลี่ยงการวางมือถือในที่ที่มีอุณหภูมิสูง เช่น ตากแดด หรือในรถที่จอดกลางแดด เพราะความร้อนจะส่งผลเสียต่อแบตเตอรี่
8. อัปเดตซอฟต์แวร์ล่าสุด
ผู้ผลิตมักจะปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการพลังงานในซอฟต์แวร์รุ่นใหม่ๆ การอัปเดตซอฟต์แวร์เป็นประจำจึงช่วยให้แบตเตอรี่ใช้งานได้นานขึ้น
9. การตั้งค่าเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ (สำหรับ iPhone และ Samsung)
- เปิดโหมดประหยัดพลังงาน (Low Power Mode/Power Saving Mode): ลดการทำงานของบางฟีเจอร์เพื่อยืดอายุแบตเตอรี่
- ลดความสว่างหน้าจอ: หน้าจอที่สว่างจ้าเป็นตัวการกินแบตเตอรี่อันดับต้นๆ
- ปิดการทำงานของ Location Services: หากไม่จำเป็นต้องใช้ location services ตลอดเวลา ควรปิดไว้
- ปิด Background App Refresh: ป้องกันไม่ให้แอปทำงานในเบื้องหลังโดยไม่จำเป็น
- ปิด Bluetooth และ Wi-Fi เมื่อไม่ใช้งาน: การเปิดทิ้งไว้ตลอดเวลาจะเปลืองแบตเตอรี่โดยใช่เหตุ
10. เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับ iPhone (อ้างอิงจาก Apple Support)
ตรวจสอบ Health Battery ใน Settings > Battery > Battery Health & Charging เพื่อดูประสิทธิภาพของแบตเตอรี่
เปิด Optimized Battery Charging: iPhone จะเรียนรู้พฤติกรรมการชาร์จของคุณและชะลอการชาร์จให้เต็ม 100% เพื่อลดการเสื่อมสภาพ
11. เคล็ดลับเพิ่มเติมสำหรับ Samsung (อ้างอิงจาก Samsung Support)
เปิด Adaptive Battery: ระบบจะเรียนรู้รูปแบบการใช้งานของคุณและปรับการใช้พลังงานให้เหมาะสม
ใช้ฟีเจอร์ Device care: ช่วยตรวจสอบและปรับปรุงประสิทธิภาพของแบตเตอรี่
ทำไมควรชาร์จแบตมือถือให้เต็มแค่ 80%?
การชาร์จแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนให้เต็มเพียง 80% แทนที่จะชาร์จจนถึง 100% เป็นวิธีที่ช่วยยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่และเพิ่มความปลอดภัย โดยมีเหตุผลสำคัญดังนี้
ยืดอายุแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนซึ่งใช้ในสมาร์ทโฟนมีข้อจำกัดด้านความทนทานต่อความร้อนและการชาร์จเต็ม 100% เป็นประจำจะเพิ่มความเครียดให้กับแบตเตอรี่ ส่งผลให้อายุการใช้งานลดลง การชาร์จถึงเพียง 80% จะช่วยลดความเครียดนี้และยืดอายุรอบการชาร์จได้
ลดความร้อน
การชาร์จแบตเตอรี่จนเต็มหรือปล่อยให้แบตเตอรี่หมดบ่อย ๆ อาจทำให้เกิดความร้อนสะสม ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการเสื่อมสภาพของแบตเตอรี่หรือแม้กระทั่งการเกิดอุบัติเหตุ เช่น การระเบิด การหยุดชาร์จที่ 80% ช่วยลดโอกาสที่แบตเตอรี่จะร้อนเกินไป
ประหยัดพลังงาน
เมื่อชาร์จถึง 100% อุปกรณ์จะยังคงใช้พลังงานเพื่อรักษาระดับประจุไฟฟ้า การหยุดชาร์จก่อนถึง 100% สามารถช่วยลดการใช้พลังงานส่วนเกินได้1.
สรุป
การดูแลรักษาแบตเตอรี่มือถือ iPhone และ Samsung ให้ดีไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่ทำตามเคล็ดลับง่ายๆ เหล่านี้ คุณก็จะสามารถยืดอายุการใช้งานแบตเตอรี่และใช้งานมือถือได้อย่างเต็มประสิทธิภาพไปอีกนาน