การชาร์จไร้สายระหว่าง Qi1 vs Qi2 vs MagSafe ต่างกันอย่างไรบ้าง ?
การชาร์จไร้สาย Qi1 vs Qi2 vs MagSafe ต่างกันอย่างไร?
เทคโนโลยีการชาร์จไร้สายได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของผู้ใช้มือถือ สมาร์ทโฟนและอุปกรณ์เสริมอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยความสะดวกสบายที่ไม่ต้องใช้สายเสียบ มาตรฐานที่ได้รับความนิยมได้แก่ Qi1, Qi2, และ MagSafe ซึ่งแต่ละแบบมีคุณสมบัติและข้อแตกต่างที่น่าสนใจ ดังนี้
Qi1 (มาตรฐานดั้งเดิม)
Qi1 เป็นมาตรฐานการชาร์จไร้สายที่เปิดตัวในปี 2008 โดย Wireless Power Consortium (WPC) ใช้หลักการเหนี่ยวนำแม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Induction) ในการส่งพลังงานระหว่างแท่นชาร์จและอุปกรณ์
- กำลังไฟสูงสุด รองรับตั้งแต่ 5W ถึง 15W แต่ส่วนใหญ่ใช้งานที่ 7.5W
- การจัดตำแหน่ง ต้องวางอุปกรณ์ให้ตรงกับแท่นชาร์จอย่างแม่นยำ หากวางผิดตำแหน่งอาจทำให้เกิดการสูญเสียพลังงานหรือชาร์จได้ช้าลง
- ข้อเสียคือไม่มีระบบแม่เหล็กช่วยจัดตำแหน่ง ทำให้เกิดความไม่สะดวกในการใช้งาน
Qi2 (มาตรฐานใหม่)
Qi2 เป็นเวอร์ชันปรับปรุงของ Qi1 ที่เปิดตัวในปี 2023 โดยพัฒนาบนพื้นฐานเทคโนโลยี MagSafe ของ Apple และเพิ่มฟีเจอร์ Magnetic Power Profile (MPP) เพื่อแก้ปัญหาการจัดตำแหน่ง
- กำลังไฟสูงสุด เริ่มต้นที่ 15W และมีศักยภาพที่จะรองรับกำลังไฟที่สูงขึ้นในอนาคต
- การจัดตำแหน่งแม่เหล็ก มีวงแหวนแม่เหล็กในตัวช่วยให้การจัดตำแหน่งระหว่างแท่นชาร์จและอุปกรณ์แม่นยำ ลดการสูญเสียพลังงานและความร้อน
- ความปลอดภัย เพิ่มระบบตรวจจับวัตถุแปลกปลอม (Foreign Object Detection) และควบคุมอุณหภูมิ
- ความเข้ากันได้ รองรับทั้งอุปกรณ์ Android และ Apple รวมถึงยังสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ Qi1 ได้
MagSafe
MagSafe เป็นเทคโนโลยีเฉพาะของ Apple ที่เปิดตัวในปี 2020 สำหรับ iPhone 12 และรุ่นใหม่กว่า ใช้แม่เหล็กช่วยจัดตำแหน่งเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการชาร์จไร้สายได้
- กำลังไฟสูงสุด: 15W สำหรับไอโฟนแต่ต่ำกว่าสำหรับอุปกรณ์อื่นๆ
- การจัดตำแหน่งแม่เหล็ก: แม่นยำและรวดเร็ว ช่วยลดปัญหาการวางผิดตำแหน่ง
- ข้อดีเฉพาะตัว: มีอุปกรณ์เสริมหลากหลาย เช่น เคส, แท่นชาร์จ, และแบตเตอรี่สำรอง ที่ออกแบบมาเพื่อใช้งานกับ MagSafe โดยเฉพาะ
- ข้อจำกัด: ใช้งานได้เฉพาะกับผลิตภัณฑ์ Apple เช่น iPhone, AirPods และ Apple Watch