วิธีเลือกซื้อมือถือ อัปเดต 2025 ต้องรู้อะไรบ้าง ?
คู่มือเลือกซื้อมือถือ สำหรับผู้เริ่มต้น เลือกซื้อมือถือที่ใช่ ในปี 2025 ยังไงบ้าง ?
ผมว่ายุคนี้ใครๆ ก็ปฏิเสธไม่ได้หรอก ว่ามือถือมันไม่ใช่เพียงอุปกรณ์สื่อสารไว้โทรคุยหากัน แต่มันกลายเป็นศูนย์กลางจักรวาลของการใช้ชีวิตเราไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นการโอนเงิน จ่ายเงิน ซื้อสินค้า การติดต่อกับเพื่อนหรือครอบครัว ใช้มือถือส่งรูปภาพ ส่งวีดีโอให้กันไปมา รวมไปถึงใช้เล่นสื่อ Social Media ติดตามข่าวสารได้รวดเร็วยิ่งกว่าตามข่าวในทีวีซะอีก
ดังนั้น ในการเลือกซื้อมือถือที่มันตอบโจทย์สไตล์การใช้งานของแต่ละคนก็น่าจะดีไม่ใช่น้อยถ้าเรารู้ก่อนซื้อ ไม่ใช่ซื้อแล้วมาเสียดายภายหลัง (เครื่องนึงก็ไม่ใช่ถูกๆ นะ) ในช่วงต้นปี 2025 แบบนี้ เรามาอัปเดตความรู้กันหน่อยดีกว่าว่ามีปัจจัยอะไรบ้าง ดูสเปกมือถือยังไง เราจะมาอัปเดตวิธีเลือกซื้อให้เพื่อนๆ กันครับ
1. ให้เพื่อนๆ กำหนดงบประมาณที่ต้องการจะซื้อก่อนเลย (ถ้าจ่ายไหวเอารุ่นท็อป ก็ได้สุดทุกด้าน อันนี้จบแล้ว ไปซื้อได้เลย)
การตั้งงบว่าจะซื้อมือถือกี่บาท สำคัญมาก เพราะมันจะทำให้เรามองหาดูข้อมูลได้เจาะจงมากขึ้น หากเพื่อนๆ ไม่ได้ซื้อมือถือรุ่นเรือธง (Flagship Phone) แต่ละรุ่นก็มักจะถูกออกแบบมาสำหรับผู้ใช้ที่ใช้งานแตกต่างกันเช่น เน้นแบตอึด เน้นทนทาน จอแตกยาก อาจจะยกตัวอย่างรุ่นกลางๆ อย่าง Honor X9c ที่มีความทนในการกระแทกและแบตเตอรี่ความจุเยอะ, หรือหากเพื่อนๆ ต้องการใช้จะใช้งานโซเชียล ถ่ายวีดีโอ 4K ชัดๆ อาจจะเลือกเป็น Samsung Galaxy A55 5G แทนก็ได้
1.1 การใช้งานทั่วไป
เน้นการโทร-เข้าออก ใช้ Social Media ดูคลิป ดูหนัง ดูวีดีโอต่างๆ ในปี 2025 ทุกรุ่นสามารถทำอะไรแบบนี้ได้แล้ว แต่ถ้าอยากจะทำให้ดีมากยิ่งขึ้น ยิ่งจ่ายราคาสูงขึ้น คุณภาพของวัสดุ ทนทานก็จะดีขึ้นไปด้วย
1.2 เน้นการถ่ายรูป ถ่ายวีดีโอ
เทคโนโลยีกล้องในปี 2025 มักจะมีการประมวลผลภาพด้วย AI เข้ามาเกี่ยวกับ หลายๆ รุ่นอาจจะไม่ได้บอกเราตรงๆ ว่าประมวลผลด้วย AI นะ แต่ถ้าเราสังเกตุตอนถ่ายรูปดีๆ ช่วงที่กดชัตเตอร์ถ่ายแล้ว รอสักพักภาพมันก็จะดูคมขึ้น ชัดมากยิ่งขึ้น การเลือกซื้อมือถือเน้นเรื่องนี้ นอกจากดูรีวิว อ่านบทความต่างๆ แล้ว ผมจะแนะนำให้เพื่อนๆ ไปหน้าร้านที่จัดจำหน่ายมือถือ และลองเล่นกล้องของแต่ละยี่ห้อ แต่ละรุ่นกันไปเลย ว่าตัวเองชอบภาพสไตล์ไหน ชอบกล้องซัมซุง ชอบกล้องไอโฟน ชอบกล้อง Xiaomi OPPO VIVO หรือแบรนด์อื่นๆ ก็ต้องลองแหละ
***ไม่ต้องเกรงใจพนักงาน เรามีสิทธิ์ในการขอลองหยิบจับเครื่องมาถ่ายรูป มาลองปัดๆ ถือๆ เล่นๆ ได้ครับ เขาออกแบบ Demo มาให้พวกเราทำแบบนั้น เราลองก่อนจ่ายเงินหลักพันหลักหมื่นเป็นเรื่องปกติเลย
ในส่วนการถ่ายวีดีโอ อย่าไปยึดติดกับโฆษณาหรือพนักงานขายที่ร้านบอกว่า ถ่ายชัด 4K 8K เลยนะพี่ เพราะ 4K ของแต่ละรุ่นมันไม่เท่ากัน ภาพแตก ภาพเบลอ ภาพสั่น มีอีกหลายปัจจัย ยังไงก็แนะนำให้ดูรีวิวตามช่องต่างๆ (อย่างพวกเราก็ JongRak - GUZAP) ก็เลือกดูเปรียบเทียบรีวิวได้เลย
1.3 เน้นการเล่นเกม
หากเพื่อนๆ จะเอามือถือไปเล่นเกม ถ้างบประมาณไม่จำกัด เลือกรุ่นท็อปไปเลยเล่นเกมได้ดีเหมือนกัน แต่! หากงบมีจำกัดก็ไม่ใช่เรื่องยาก สมมุติว่าอยู่ในช่วงกลาง 6,000 - 15,000 บาท ก็มักจะมีมือถือที่โฆษณาว่าเล่นเกมได้ดี สังเกตุว่าในกลุ่มนี้มักจะเลือกให้ชิปเซต ซีพียู จีพียู ประมวลผลที่แรงกว่าในเรทเดียวกันแต่เน้นเรื่องกล้อง รวมไปถึงด้านแรมก็มักจะให้แรมที่สูงกว่า 8GB ขึ้นไป ส่วนเรื่องระบายความร้อนก็อาจจะต้องพึ่งการดูรีวิวนะครับ เราคงไปทดสอบหน้าร้านเหมือนกล้องไม่ได้
อีกเรื่องที่สายเกมต้องดูคือ สเปคหน้าจอมีค่าอัตรารีเฟรชเรทสูงกว่า 60Hz หรือไม่ ปัจจุบันจะแนะนำให้เลือกซื้อที่ 120Hz อธิบายง่ายๆ คือยิ่งตัวเลขของ xxx Hz สูงมากเท่าไหร่ การแสดงผลใน 1 วินาที จะมีความละเอียดในการฉายภาพมากเท่านั้นเช่น 60Hz = 1 วิ มีภาพเร็วๆ แสดงมา 60 รูปภาพ แต่ 120Hz = 1 วิ จะมีภาพเร็วๆ แสดงออกมาถึง 120 รูปภาพ แปลว่าเมื่อเราเล่นเกมแล้ว ภาพจะมีความลื่นไหลมากกว่า ช่วยให้ประสบการณ์การเล่นเกมที่ดีกว่านั่นเอง
1.4 ด้านการทำงาน
ด้านการทำงานจริงๆ เกือบทุกรุ่นทำงานได้อยู่แล้ว รองรับแอปพลิเคชันคล้ายๆ กัน แต่ก็จะมีบางรุ่นที่มีความได้เตรียมเช่น มือถือที่มีปากกา หรือมือถือจอพับ สามารถกางออกมาเพื่อเปิดหลายๆ แอปไปพร้อมๆ กันได้เช่น การจดโน้ต การดูคลิปเรียนภาษา การเปิดเกมไปด้วย พื้นที่หน้าจอใหญ่ขึ้นทำงานแบบมัลติทาสก์ได้ไวขึ้น จึงเหมาะกับการทำงานมากกว่ารุ่นอื่นๆ อีกส่วนที่สำคัญของคนใช้งานด้านนี้ก็น่าจะเป็นเรื่องการเลือกรุ่นที่มีแบตอึด ใช้งานต่อเนื่องได้นาน และสามารถชาร์จไฟเข้ากลับได้เร็ว
2. สเปคมือถือที่ควรมองหาในช่วงต้นปี 2025
2.1 ชิปเซ็ต
อยากให้มองหาชิปที่ประสิทธิภาพสูงขึ้น อาจะเป็นรุ่นที่เป็น 4 นาโนเมตรหรือต่ำกว่านั้นเพราะจะได้ทั้งความแรงในการประมวลผลและประหยัดไฟ ยิ่งในส่วนของมือถือรุ่นเรือธง ตอนนี้มักจะแข่งกันในฟีเจอร์ประมวลผล AI ที่มีความสำคัญมากขึ้นเรื่องๆ
2.2 RAM
อย่างน้อยควรได้ Ram 8GB แล้วสำหรับการใช้งานทั่วไป แต่ถ้าจะให้ดีควรเลือกเป็นรุ่น 12 - 16GB ก็ดีมากเช่นกัน ( อันนี้จะยกเว้น iPhone ที่เขาจะไม่ได้ระบุสเปคของแรมอย่างเป็นทางการ แต่ด้วยความที่เขาขายรุ่นสูง จึงไว้ใจได้ว่าลื่นไหล ใช้ต่อเนื่องได้หลายปี)
2.3 หน้าจอ
ควรเลือกรุ่นที่มีหน้าจอสเปคอัตรารีเฟรขเรท 120Hz แล้ว เนื่องจากเป็นที่นิยมมากขึ้น ในด้านความละเอียด FHD+ ขึ้นไปค่อนข้างเพียงพอในการใช้งาน
2.4 กล้อง
ปัจจุบันหลายๆ รุ่นมีการใช้เทคโนโลยี AI มาช่วยประมวลผลของภาพและวีดีโอ จำนวนเลข MEGA Pixel ไม่ว่าจะ 12 ล้านพิกเซล 50 ล้านพิกเซล 108 ล้านพิกเซล อาจจะไม่ใช่ตัวเลขสำคัญในการพิจารณา แต่กลับเป็นเรื่องขนาดของเซ็นเซอร์กล้องถ่ายรูป ยิ่งขนาดใหญ่ขึ้นก็จะยิ่งเก็บรายละเอียด เก็บแสงของภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น มองหารุ่นที่มีระบบกันสั่นแบบ OIS ไม่ใช่ EIS และบางรุ่น บางแบรนด์เริ่มมีการปล่อยฟีเจอร์ AI ช่วยในการลบสิ่งของในภาพที่เราไม่ต้องการ เช่นการลบคนเยอะๆ ออกจากสถานที่ท่องเที่ยว ทำให้รูปถ่ายของเราสวยมากยิ่งขึ้นนั่นเอง
2.5 แบตเตอรี่ และการชาร์จไว
มองหารุ่นที่มีแบตเตอรี่ความจุไม่ต่ำกว่า 5,000 mAh ขึ้นไปได้แล้ว รวมถึงความเร็วในการชาร์จไฟ ควรสูงกว่า 25-35W (บางรุ่นจะได้ 67W หรือ 100-120W ด้วยซ้ำ)
2.6 การเชื่อมต่อแบบ 5G รองรับ Wifi และ Dual Sim
อ่านสเปคแล้วยังงง ๆ มาลองดูวีดีโอที่พวกเราแนะนำในแต่ละช่วงงบราคาได้นะครับ
เข้าไปในช่องยูทูป JONGRAK หรือ GUZAP จะมีอีกหลายวีดีโอให้ชมก่อนตัดสินใจซื้อได้เลย
3. เทรนด์ใหม่ๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2025
เราจะมาพูดถึงอนาคตกันบ้าง ช่วงที่ผมเขียนบทความนี้ ตอนนี้อยู่ในช่วงกลางมกราคมปี 2025 คิดว่าบทบาทสำคัญที่มือถือแต่ละแบรนด์จะเอามานำเสนอขายให้เราในปีนี้น่าจะเน้นการใช้งานของ AI ฟีเจอร์เป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็น ผู้ช่วย AI ที่เราสามารถถามตอบได้ ผู้ช่วย AI ด้านการถ่ายรูปและแต่งภาพ เราจะเปลี่ยนหรือลบสิ่งที่ไม่ต้องการในภาพออก และสร้างใหม่ได้จาก AI รวมไปถึงการตัดต่อคลิปต่างๆ ก็น่าจะมี AI ในการช่วยเลือก Hilight สำคัญๆ มาให้เราลงเป็นคลิปสั้นๆ สร้างความทรงจำและน่าประทับใจ
มือถือหน้าจอพับได้ จะมาในราคาที่ถูกลง โดยอาจจะมีหลากหลายแบรนด์ออกมาให้เลือกซื้อกันมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม เมื่อการแข่งขันมากขึ้น มือถือในกลุ่มนี้ก็จะถูกลงและจับต้องได้ง่ายขึ้น แต่อันนี้อยากให้ระวังกันหน่อยนะครับ เพราะมือถือจอพับยังถือว่าเป็นเทคโนโลยีใหม่ระดับนึง ความคงทนจะไม่สูงเท่ากับมือถือปกติทั่วไป แต่ถ้าใครอยากเน้นประสบการณ์ใหม่จากนวัตกรรมพับ พกพาสะดวกหรือการใช้งานกล้องที่ง่ายขึ้นในหลายๆ มุมองศาก็น่าซื้อครับ
ด้านความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ก็น่าจะเป็นอีกสิ่งที่ทางผู้ผลิตแต่ละแบรนด์เริ่มออกมาชูโรงด้วยฟีเจอร์เหล่านี้ เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้ลูกค้าที่ใช้มือถือแต่ละแบรนด์เกิดปัญหาการโดนแฮกหรือ Scam หลอกเงินไป แบรนด์หลักๆ ที่ชูเรื่องความปลอดภัยได้ดีคือ Apple iPhone, Samsung และ Honor
4. การเลือกซื้อในแต่ละร้าน
แน่นอนว่าแต่ละร้านค้าในห้างมักจะได้มือถือแบรนด์ต่างๆ มาจำหน่ายเหมือนๆ กันไปหมด สิ่งที่ต่างกันมากคือของแถมและการบริการ เวลาจะซื้อมือถือก็ลองแนะนำให้เดินถามโปรโมชันในการซื้อ ไม่ว่าจะเป็นโปรส่วนลด โปรบัตรเครดิต ของแถม หรืออื่นๆ ในด้านการบริการ ร้านค้ามักจะดูแลลูกค้าภายใน 7-15 วันแรก โดยบางร้านอาจจะมีนโยบายเปลี่ยนรุ่น เปลี่ยนตัวหากสินค้าเกิดปัญหา บางร้านไม่มีนโยบายเหล่านี้ก็มี ดังนั้นควรถามให้ชัดเจนก่อนตัดสินใจจ่ายเงินซื้อ และหากเครื่องมีปัญหาหลังจากนั้นก็มักจะอยู่ในประกันศูนย์บริการมือถือแต่ละแบรนด์ 1 ปี โดยไม่ว่าเพื่อนๆ จะซื้อจากร้านไหน ก็มักจะส่งเข้าศูนย์ของแต่ละแบรนด์เหมือนกันทั้งหมด
หากเพื่อนๆ เลือกซื้อร้าน ก แล้วบริการดี ผ่านไปแล้วเขาก็ยังดูแลช่วยประสานเรื่อง ประสานการติดตามงานเคลมให้เราได้ เรื่องพวกนี้นอกจากขึ้นอยู่กับแบรนด์ที่จำหน่ายมือถือแล้ว มันขึ้นอยู่กับพนักงานในแต่ละร้านค้าที่บริการด้วย อาจจะแนะนำชัดๆ ไม่ได้นะครับ